วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


เรื่อง การเครื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ


เรื่อง การเครื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ


-          ปริมาณทางฟิสิกส์


                    ปริมาณสเกลลาร์  เป็น ปริมาณบอกเฉพาะขนาดเท่านั้น เราก็เข้าใจได้  ตัวอย่างปริมาณสเกลลาร์ เช่น จำนวนนับของสิ่งของ  ระยะทาง  เวลา  พื้นที่  งาน  พลังงาน ความหนาแน่น   กระแสไฟฟ้า  เป็นต้น การการบวก  ลบ คูณ หรือ หาร ปริมาณสเกลลาร์    เราสามารถกระทำได้ตามหลักการทางคณิตศาสตร์ธรรมดาได้เลยครับ

ปริมาณเวกเตอร์  เป็น ปริมาณที่ต้องกำหนดทั้งขนาดและทิศทางจึงจะมีความหมาย   ตัวอย่างของปริมาณเวกเตอร์ เช่น    แรง  การกระจัด  ความเร็ว  ความเร่ง โมเมนตัม และปริมาณอื่น ๆ อีกหลายที่ต้องบอกทั้งขนาดและทิศทาง   เป็นต้น   เนื่องจากปริมาณเวกเตอร์มีทั้งขนาดและทิศทาง  การคำนวณจึง  ไม่สามารถดำเนินการบวก ลบ คูณ หารแบบธรรมดาได้   การบวก ลบ เวกเตอร์ เราทำได้หลาย ๆ วิธี   เช่น  การวาดรูป  การคำนวณโดยใช้สมการ-          ปริมาณเวกเตอร์
           ปริมาณเวกเตอร์  เป็น ปริมาณที่ต้องกำหนดทั้งขนาดและทิศทางจึงจะมีความหมาย   ตัวอย่างของปริมาณเวกเตอร์ เช่น    แรง  การกระจัด  ความเร็ว  ความเร่ง โมเมนตัม และปริมาณอื่น ๆ อีกหลายที่ต้องบอกทั้งขนาดและทิศทาง   เป็นต้น   เนื่องจากปริมาณเวกเตอร์มีทั้งขนาดและทิศทาง  การคำนวณจึง  ไม่สามารถดำเนินการบวก ลบ คูณ หารแบบธรรมดาได้   การบวก ลบ เวกเตอร์ เราทำได้หลาย ๆ วิธี   เช่น  การวาดรูป  การคำนวณโดยใช้สมการ


-          การเคลื่อนที่ของวัตถุ

      

ปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่จะเป็นพื้นฐานในการศึกษาเรื่องของการเคลื่อนที่ ซึ่งในการเคลื่อนที่จะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบ ส่วน
วัตถุที่เคลื่อนที่ จะหมายจึงวัตถุที่มีลักษณะเป็นของแข็งที่คงรูปทรงอยู่ได้
ผู้สังเกต เป็นผู้ที่ศึกษาวัตถุที่เคลื่อนที่ โดยผู้สังเกตจะต้องอยู่นอกวัตถุที่เคลื่อนที่
จุดอ้างอิง การเคลื่อนที่ของวัตถุจะต้องมีการเปลี่ยนตำแหน่งของวัตถุดังนั้นเราจะต้องมีจุดอ้างอิง
เพื่อบอกตำแหน่งของวัตถุเมื่อเวลาผ่านไป
-          ระยะทาง

1. ระยะทาง (Distance) การเคลื่อนที่ของวัตถุจะเริ่มนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เราสังเกตเป็นจุดอ้างอิงแล้ววัดระยะทางตามแนวทางที่วัตถุเคลื่อนที่
ไปตามแนวทางการเคลื่อนที่ของวัตถุ
 
-          การกระจัด
การกระจัด (displacement) คือ เส้นตรงที่เชื่อมโยงระหว่างจุดเริ่มต้น และจุดสุด ท้ายของการเคลื่อนที่เป็นปริมาณเวกเตอร์ คือ ต้องคำนึงถึงทิศทางด้วย มีหน่วยเป็นเมตร โดยทั่วไปเขียนแบบเว็กเตอร์เป็น S 


-          อัตราเร็ว
อัตราเร็ว (สัญลักษณ์: vคืออัตราของ การเคลื่อนที่ หรือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งก็ได้ หลายครั้งมักเขียนในรูป ระยะทาง d ที่เคลื่อนที่ไปต่อ หน่อย ของ เวลา t
อัตราเร็ว เป็นปริมาณเสเกลาร์ที่มีมิติเป็นระยะทาง/เวลาปริมาณเวกเตอร์ที่เทียบเท่ากับอัตราเร็วคือความเ็ร็ว อัตราเร็ววัดในหน่วยเชิงกายภาพเดียวกับความเร็ว แต่อัตราเร็วไม่มีองค์ประกอบของทิศทางแบบที่ความเร็วมี อัตราเร็วจึงเป็นองค์ประกอบส่วนที่เป็นขนาดของความเร็ว


-          ความเร็ว

ความเร็ว คืออัตราการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งต่อหน่วยเวลา มีหน่วยเป็นเมตรต่อวินาที (m/s) ในหน่วยเอสไอ ความเร็วเป็นปริมาณเวกเตอร์ซึ่งประกอบด้วยอัตราเร็วและทิศทาง ขนาดของความเร็วคืออัตราเร็วซึ่งเป็นปริมาณสเกลาร์ตัวอย่างเช่น "เมตรต่อวินาที" เป็นอัตราเร็ว ในขณะที่ "เมตรต่อวินาทีไปทางทิศตะวันออก" เป็นความเร็ว ความเร็วเฉลี่ย v ของวัตถุที่เคลื่อนที่ไปด้วยการกระจัดขนาดหนึ่ง x ในช่วงเวลาหนึ่ง t สามารถอธิบายได้ด้วยสูตรนี้
\mathbf{\bar{v}} = \frac{\Delta \mathbf{x}}{\Delta t}

-          อัตราเร่ง

          อัตราเร่ง 
หมายถึง การเพิ่มความเร็ว จากความเร็วหนึ่ง ไปยังอีกความเร็วหนึ่งที่สูงขึ้น เช่น อัตราเร่งจากความเร็ว 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไปยังความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือตามมาตรฐานการทดสอบที่นิยมกัน คือ จากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 


-          ความเร่ง
            ความเร่ง (Accelerationหมายถึง การเปลี่ยนแปลงความเร็วต่อเวลา นั่นคือถ้าที่เวลา วัตถุมีความเร็ว  และที่เวลาก่อนนั้นคือ วัตถุมีความเร็ว ถือว่าความเร่งเฉลี่ยใน ช่วงเวลา ถึงเวลา คือ

                                   

ความเร่งขณะใดขณะหนึ่ง (
Instantaneous accelerationโดยใช้สัญลักษณ์ คือ

                              

          หากเขียนกราฟของความเร็วกับเวลา  ความชันของเส้นสัมผัสที่จุดต่าง ๆ ก็คือความเร่งของ วัตถุที่จุดนั้นๆ ในทำนองเดียวกันกับที่ความเร็วเป็นความชันของ กราฟระหว่างตำแหน่งกับเวลา  สำหรับคำว่า  อัตราเร่ง ก็จะไม่คิดทิศทางในลักษณะ เดียวกับอัตราเร็ว


-          การหาความชันของกราฟ

ความชันจะหาได้จาก
1.
สมการที่กำหนดมาเเล้ว
2.
จุด จุดที่เส้นกราฟผ่าน
จาก1.เช่น y = 2x+1ได้ความชัน ระยะตัดเเกน y 1ความชันได้มาจากหน้า ถ้าไม่มีเลยเช่น y = x+9เเสดงว่ามการนี้มีความชัน 1จาก 2สมมติมีจุดตัดมาให้ จุดเช่น
(3,6)
เเละ(4,8)หาได้ทั้งความชันเเละสมการโดย
หาความชันได้จากการนำค่า จากพิกัดที่กำหนดคือพจน์หลังของทั้ง 2พิกัด มาลบกันเเล้วนำค่าทั้งหมดที่ได้หารด้วย ค่าของ ในพิกัดทั้งสอง
มาลบกัน ตามตัวอย่างได้
(8 - 6) / (4-3) 
ได้ ความชันได้ 2


-          กราฟความสัมพันธ์ระหว่าง s-t, v-t และ a-t

               กราฟ (Graph)


v

s

a
การหาความหมายของกราฟและความสัมพันธ์ของกราฟ




ความเร่ง > 0



ความเร็วคงที่                      

                                                                                  


t

t

t
 

                                                                 

v

s

a
        ระยะทางเพิ่มขึ้นคงที่      
2. .      
                                                                             ความเร็วเพิ่มคงที่                ความเร่ง > 0

t

t
 



a

v

s
        ระยะทางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ระยะทางเพิ่มเล็กน้อยเมื่อเวลาเพิ่มขึ้น

ความเร่ง < 0

ความเร็วลดคงที่           
3

t

t
 

                                                    

s

t
                                                                                           
   

a

v
4

ความเร่ง < 0
 

t

t
                                                                         

t
 


การแปลความหมายจากกราฟ ให้พิจารณา กรณี
                1. ความชัน (slope)
                2. พื้นที่ใต้กราฟ

การวิเคราะห์กราฟ S-T


s
                                    1. ความชัน =       
                             slope             v =      

t
                                              slope = v 
                           



s
                                    2. พื้นที่ใต้กราฟ  (st) 
                     พื้นที่ใต้กราฟ                   ไม่มีความหมาย
                  

t
                            

 

การวิเคราะห์กราฟ V-T


v
                             1. ความชัน =  v/t 
                                             a = v/t
                                      slope = a

t
                         
     

v
                                  2. พื้นที่ใต้กราฟ  (vt) 
                                             ระยะทาง  (vt)
                                    พื้นที่ใต้กราฟ ระยะทาง

t
                            

การวิเคราะห์กราฟ A-T


a
                                    1. ความชัน = a/t 
                                                         = ไม่มีความหมาย
                  

t
                                       

a
                                                        2. พื้นที่ใต้กราฟ  =   (at) 
                                                                      v  = (at)
                                         พื้นที่ใต้กราฟ     =   ความเร็ว  

t
                             








Ex1  จากกราฟ v-t จงเปลี่ยนเป็นกราฟ a-t และ s-t 

v
                                                                         

t
 

                                                                                                                                                          

t

t
                                                                   
   

s

t

v
 Ex2  จากกราฟ a-t จงเปลี่ยนเป็นกราฟ v-t และ s-t 
           a                                                                  

t
 

                                   

t
                                                                        

Ex3 ลูกบอลลูกหนึ่งถูกโยนขึ้นไปในแนวดิ่งแล้วตกกลับสู่ที่เดิม จงเขียนกราฟ v-t และ  a-t 
           v                                                                  a
 


                                                          t                                                                              t
 


 Ex4  จากรูปโยนวัตถุขึ้นไปในแนวดิ่งดังกราฟ v-t จงหา    v(m/s)      

50      
     กความเร่ง                                                
     ขนานเท่าใดวัตถุถึงตำแหน่งสูงสุด                

5

t(s)
                                                                                              

วิธีทำ

ความเร่งจากกราฟ v - t = slope
                            
    ความเร่งมีค่าเท่ากับ    ตอบ
วิธีทำ
วัตถุจะตกถึงพื้นเมื่อเวลาผ่านไป 5  วินาทีตอบ












-          การหาความเร็วและความเร่งจากกราฟ

§    ความเร่ง คือ ความเร็วที่เปลี่ยนไปในหนึ่งหน่วยเวลา หรือ อัตราการเปลี่ยนแปลงความเร็วเป็นปริมาณ เวคเตอร์
   vec{a} = {Delta{vec{v}}}/{Delta{t}}
หรือ
                                                                       vec{a} = {vec{v_2} - vec{v_1}}/{{t_2} - {t_1}}                                                                                                                                                                  
         เราสามารถหาค่าของความเร่งได้จากความชัน(slope) 
ถ้าข้อมูลให้เป็นกราฟ ความเร็ว กับ เวลา (v-t) 
ความเร่งขณะหนึง คือ ความเร่งในช่วงเวลาสั้นๆในกรณีที่เราหาความเร่ง เมื่อ เข้าใกล้ศูนย์  ความเร่งขณะนั้นเราเรียกว่า ความเร่งขณะหนึ่ง    ถ้าข้อมูลเป็นกราฟ  หาได้จาก slope ของเส้นสัมผัส
http://student.kru-ff.com/40102/wp-content/uploads/2011/08/ff1-300x164.jpg
                                                                                                                                                                                                            
ความเร่งเฉลี่ย คือ อัตราส่วนระหว่างความเร็วที่เปลี่ยนไปทั้งหมดกับช่วงเวลาที่เปลี่ยนความเร็วนั้น

กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเร่ง (a) กับเวลา (t)

http://student.kru-ff.com/40102/wp-content/uploads/2011/08/aa1-300x190.png
 สามารถหาความเร็วได้โดย
Delta{v} = พื้นที่ใต้กราฟ
{v_2} - {v_1} = พื้นที่ใต้กราฟ 

ข้อสังเกต
วัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร่ง วัตถุจะเคลื่นที่เร็วขึ้นเมื่อเวลาผ่าน
วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ วัตถุเคลื่อนที่ด้วยเร็วคงตัวตลอดการเคลื่อนที่
วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความหน่วง วัตถุเคลื่อนที่ช้าลงเมื่อเวลาผ่านไป

ตัวอย่างการคำนวณ
                  1 อนุภาคหนึ่งมีความเร็วของอนุภาคสัมพันธ์กับเวลาดังรูป จงหาความเร่งช่องเวลา 2-6 วินาที
                     คิดวิเคราะห์ : กราฟระหว่งความเร็ว (v) กับเวลา (t)หาความเร่งได้จากความชันของกราฟ
http://student.kru-ff.com/40102/wp-content/uploads/2011/08/ss-300x212.png
กราฟระหว่างความเร็ว (v) กับเวลา (t) หาความเร่งได้จากความชันของกราฟ
                                       วิธีทำ   จาก ความเร่ง = ความชันของกราฟช่วง 2 – 6 วินาที
                                                           vec{a}{{v_2} - {v_1}}/{{t_2} - {t_1}}
                                                              = {4 -2}/{6 - 2}
                                                              = 0.5 เมตร/วินาที2




-          กราฟความสัมพันธ์ระหว่างความเร็ว(v) และ เวลา (t)
การเปลี่ยกราฟระหว่างการกระจัด(S) -เวลา(t)ความเร็ว(V ) - เวลา(t)และ
ความเร่ง(a) - เวลา(t)
ต้องทราบความสัมพันธ์ดังนี้
1. พิจารณาจากความสัมพันธ์ของปริมาณ การกระจัด ความเร็ว และความเร่ง 
               1. กราฟระหว่าง การกระจัด(S) -เวลา(t) ความชันของกราฟนี้คือ ความเร็ว
                            ถ้าเปลี่ยนเป็นกราฟ ความเร็ว(V ) -เวลา(t) ก็เปลี่ยนจากความชัน
               2. กราฟระหว่าง ความเร็ว(V ) -เวลา(t) ความชันของกราฟนี้คือ ความเร่ง
                            ถ้าเปลี่ยนเป็นกราฟ ความเร่ง(a) -เวลา(t) ก็เปลี่ยนจากความชัน


2. ความชันของกราฟ 

http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/slo1.jpg


  http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/slo2.jpg


http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/slo3.jpg
3. พิจารณานิยาม  

http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/slo4.jpg

http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/slo5.jpg


        ตัวอย่างการเปลี่ยนแกนกราฟ   


1.             การเคลื่อนที่ของวัตถุแนวเส้นตรงเขียนเป็นกราฟระหว่าง  s - t  ดังรูป   จงเขียนกราฟระหว่าง  v - t 
 http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/motion33_04.gif
       V = ความชัน จากกราฟความชันคงที่ แสดงว่าความเร็วคงที่
         ดังนั้นเมื่อเขียนเป็นกราฟ v-t  จะได้กราฟขนานกับแกน tดังรูป
  http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/motion33_4.gif
2.              การเคลื่อนที่ของวัตถุแนวเส้นตรงเขียนเป็นกราฟระหว่าง  V - t  ดังรูป   จงเขียนกราฟระหว่าง a - t 
http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/motion33_4.gif      
a = ความชัน จากกราฟความชันเท่ากับศูนย์(0) แสดงว่าความเร่งเป็นศูนย์(0)         
ดังนั้นเมื่อเขียนเป็นกราฟ v-t  จะได้กราฟขนานกับแกน ดังรูป
  http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/motion33_5.gif
กรณี กราฟที่กำหนดให้ข้อมูลเป็นตัวเลขและสามารถหาความชันได้
นักเรียนต้องหาความชันของกราฟก่อน เช่น กราฟระหว่าง การกระจัด-เวลา
ความเร็วคือความชันของกราฟ สามารถหาขนาดของความเร็วได้แล้วจึงค่อยเขียนกราฟระหว่าง ความเร็ว - เวลา ดังตัวอย่างข้อที่ 3   


3. การเคลื่อนที่ของวัตถุแนวเส้นตรงเขียนเป็นกราฟระหว่าง  s - t  ดังรูป
      จงเขียนกราฟระหว่าง  v - t  จากการเคลื่อนที่นี้
      http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/motion33_6.jpg

http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/motion33_7.jpg
  
     เขียนกราฟ ความเร็ว – เวลา  ได้ดังรูป
http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/motion33_8.jpg


ทดสอบเพื่อความเข้าใจ
1.
วัตถุเคลื่อนที่แนวเส้นตรงสามารถเขียนเป็นกราฟการกระจัดกับเวลาเป็นดังรูป นักเรียน
       
ออกแบบและเขียนกราฟความเร็วกับเวลา
http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/ex/ex1_411.jpg


http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/RARROW1.jpg เฉลย


2.การเคลื่อนที่ของวัตถุแนวเส้นตรงเขียนเป็นกราฟระหว่าง  v - t  ดังรูป จงเขียนกราฟระหว่าง  a - tจากการเคลื่อนที่นี้
http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/sci/Physnan/motion/motion33_9.jpg



-          สมการการเคลื่อนที่ในแนวตรงด้วยความเร่งคงที่


เมื่อวัตถุเคลื่อนที่ตามแนวระดับด้วยความเร่งคงที่
             เมื่อพิจารณาวัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร่งคงที่ และเคลื่อนที่ออกไปด้วยความเร็วต้น u  ที่เวลา t=0 และมีความเร็วสุดท้าย ที่เวลา  t  เราสามารถคำนวณเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แนวตรงตามแนวระดับด้วยความเร่งคงที่ โดยมีสมการหรือสูตรที่ใช้ในการคำนวน  สูตรดังนี้
                                                1.  v  =  u  +  at                
เมื่อ  u = ความเร็วต้น
                                                2.  s  =  http://202.143.139.229/~boonlai/webdata/images/straigth%20motion_htm_eqn1.gif                       v = ความเร็วปลาย
                                                3.  s  = ut + http://202.143.139.229/~boonlai/webdata/images/straigth%20motion_htm_eqn2.gifathttp://202.143.139.229/~boonlai/webdata/images/straigth%20motion_htm_eqn3.gif                      a = ความเร่ง
                                                4.  vhttp://202.143.139.229/~boonlai/webdata/images/straigth%20motion_htm_eqn4.gif = uhttp://202.143.139.229/~boonlai/webdata/images/straigth%20motion_htm_eqn5.gif + 2as                        t = เวลา
                                                                                                s = การกระจัด
gman25.gif
               ข้อควรจำ
               1. 
ทิศของ เป็นบวกเสมอ ปริมาณใดที่มีทิศตรงข้ามกับ จะมีเครื่องหมายเป็น ลบ
               2. 
การกระจัดต้องวัดจากจุดเริ่มต้นและพิจารณาประกอบทิศของ ด้วย


-          สมการการเคลื่อนที่แนวดิ่งด้วยความเร่งคงที่

คือว่าจุดประสงค์ที่ผมได้ทำการเขียนบทความนี้ว่า คือผมก็ไม่ได้เก่งฟิสิกซ์อะไรมากมาย เพียงแต่ว่าเรื่องนี้เหมือนเป็นพื้นฐานในการคำนวณหาการเคลื่อนที่แบบโปรเจกไตล์นะครับ ถ้าเกิดว่าเพื่อนๆหรือน้องๆที่ใจในเรื่องของการเคลื่อนที่ในแนวเส้นโค้งนั้น จะต้องมีพื้นฐานของการเคลื่อนที่แบบแนวระดับ กับ การเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง มาเป็นอย่างยิ่ง อันเนื่องมาจากว่าผมเองก็ไม่ค่อยแม่นเรื่องนี้ ดังนั้นครับ ข้อความทั้งหมดนี้อาจมีข้อผิดพลาดนะครับ ไม่เหมาะสำหรับท่านเซียนทั้งหลายนะครับ ซึ่งก่อนที่เีราจะไปดูเรื่องการเคลื่อนที่ในแนวโค้งนะครับ เรามาศึกษาการเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวดิ่งก่อนเลยนะครับ
การเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง ก็พบได้หลายเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็น การตกลงมาของวัตถุใดๆจากจุดๆหนึ่งๆ การตกของวัตถุ ไม่ว่าจะเป็นนวตันถูกแอปเปิลตกใส่หัวกบาล หลายเหตุการณ์ที่เป็นการเคลื่อนที่แบบแนวดิ่งครับ
การเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง มีหลายประการคือ การที่โลกใช้แรงดึงดูด หรือ แรงโน้มถ่วง ที่เราพูดกันว่าแรงดึงดูดของโลก มีค่า g = 9.8m /s^2 แต่ว่านักวิทยาศาสตร์ให้เป็นที่รู้กันว่าถ้าโจทย์ไม่ได้กำหนดมาให้ให้คำนวณเป็น g = 1o m /s^2
ประเภทของการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง มีสองประเภทคือ
§   วัตถุตกแบบอิสระ โดยมีความเร่งคงตัว
§   วัตถุตกแบบไม่อิสระหรือมีความเร็วต้น ซึ่ง ไม่เท่ากับ 0
โดยสิ่งที่เพื่อนๆต้องจำก็คือว่าในกรณีที่เขาบอกว่าโยนวัตถจะพยว่ามีแรงมากระทำคือ ไม่เท่ากับ และถ้าโยนขึ้นไปเท่ากับว่าไปต้านแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้ค่า g  ที่แทนในสูตรมีค่า ติดลบ (-) อีกเงือนไขถ้าโยนบนเขา คือระยะทางที่โยนขึ้นไปบนเขา มีค่าน้อยกว่าการกระจัดที่ตกลงสู่พื้น จะทำให้ได้ว่าการกระจัดทั้งหมดเป็นลบ (-)
มาดูสูตรการคำนวณการหาระยะทาง หาความเร็วต้น ความเร็วปลาย เวลา การกระจัด โดยสูตรต่อไปนี้ครับ
v = u + gt อันนี้ใช้กรณีที่หา ความเร็วปลาย ต้น เวลา
v^2 = u^2 + 2gs อันนี้ไว้หาการกระจัด
s = (u + v)t/2 หาการกระจัดเช่นกัน
อันนี้ยอดฮิตมากเลยครับทุกท่าน s = ut + 1/2g t^2

-          การคำนวณการเคลื่อนที่ของวัตถุภายใต้แรงดึงดูดของโลก

กาลิเลโอ ได้ทำการทดลองให้เห็นว่า วัตถุที่ตกลงสู่พื้นโลกอย่างอิสระ จะเคลื่อนที่ภายใต้แรงดึงดูดของโลก ต่อมานิวตันสังเกตุเห็นว่า ทำไมดวงจันทร์ไม่ลอยหลุดออกไปจากโลก ทำไมผลแอปเปิ้ลจึงตกลงสู่พื้นดิน นิวตันได้ทำการศึกษาค้นคว้าต่อ จนในที่สุดก็สามารถพิสูจน์ในเรื่องกฎแห่งการดึงดูง สสาร โดยโลกและดวงจันทร์ต่างมีแรงดึงดูดซึ่งกันและ กัน แต่เนื่องจากดวงจันทร์โคจรรอบโลก จึงมีแรงหนีสู่ศูนย์กลางซึ่งต่อต้านแรงดึงดูดไว้ ทำให้ดวงจันทร์ลอยโคจรรอบโลกได้ แต่ผลแอปเปิ้ลกับโลกก็มีแรงดึงดูดระหว่างกัน ผลแอปเปิ้ลเมื่อหลุดจากขั้วจึงเคลื่อนที่อิสระตามแรงดึงดูดนั้น

การตกอย่างอิสระนี้ วัตถุจะเคลื่อนตัวด้วยความเร่ง ซึ่งเรียกว่า Gravitational acceleration หรือ g ซึ่งมีค่าประมาณ 9.8 m/shttp://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/kung/vertic_move/2.gifการเคลื่อนที่ในแนวดิ่งนี้จึงเป็นไปตาม กฎการเคลื่อนที่ ดังนี้
http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/kung/vertic_move/eq1.gif
http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/kung/vertic_move/exe.gif
ตัวอย่างเช่น ขว้างหินจากชั้น ของตึกขึ้นไปในแนวดิ่ง ด้วยความเร็ว 10 m/s ณ จุดที่มีความสูง14 เมตร จงหาว่าก้อนหินใช้เวลาอยู่ในอากาศนานเท่าใดจึง ตกถึงพื้น และความเร็วขณะถึงพื้นเป็นเท่าใด
ระยะทาง


จากการคำนวณหาความเร็วสุดท้าย
แทนค่าได้


เมื่อทราบความเร็วต้น และความเร็วสุดท้าย



ความเร็วต้นมีทิศเป็นลบ
ความเร็วปลายมีทิศเป็นบวก
อัตราเร่ง มีทิศตรงข้ามกับทิศทางที่ขว้าง จึงมีค่าเป็นลบ
http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/kung/vertic_move/eq4.gif
http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/kung/vertic_move/eq2.gif

vhttp://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/kung/vertic_move/2.gif = uhttp://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/kung/vertic_move/2.gif + 2gs
vhttp://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/kung/vertic_move/2.gif = (10)http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/kung/vertic_move/2.gif + 2(-9.81) x (-14) = 374.7
v = 19.36

http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/kung/vertic_move/eq3.gif



-          ความเร็วสัมพัทธ์(Relative Velocity)
ความเร็วสัมพัทธ์ (Relative Velocity)
               การจะบอกว่าวัตถุอยู่ที่ตำแหน่งใดให้ชัดเจน  และเป็นที่เข้าใจกันได้เป็นอย่างดี  ย่อมต้องมีจุดอ้างอิงและแกนอ้างอิง นั่นคือ มีระบบโคออร์ดิเนตอ้างอิง ถ้ามีผู้สังเกตสองคน  ต่างใช้ระบบโคออร์ดิเนตของตนเองและเคลื่อนที่สัมพัทธ์กัน นั่นคือ ระบบหนึ่งมีความเร็ว เมื่อเทียบกับอีกระบบหนึ่ง  สิ่งนี้เป็นไปได้เสมอ  เมื่อเป็นเช่นนี้  วัตถุที่เห็นอยู่นิ่งในระบบหนึ่ง ก็จะปรากฎในอีกระบบหนึ่ง  ตัวอย่างเช่น  ขณะที่รถไฟวิ่งด้วยความเร็วคงตัวผ่านชานชาลา แห่งหนึ่งผู้โดยสารในรถไฟทำของหล่นจากมือลงพื้น  ผู้สังเกตในรถไฟเห็นวัตถุนั้นตกลง ด้วยความเร่งในแนวดิ่ง  ทั้งนี้เทียบกับตัวเองในรถไฟ ส่วนผู้ที่อยู่บนชานชาลานอกรถไฟ  มองผ่านหน้าต่างเห็นว่าวัตถุตกลงเป็นวิถีโค้งแบบโพรเจกไทล์ตัวอย่างของการสังเกตที่
เกี่ยวกับความเร็วสัมพัทธ์เช่น   ขณะที่ฝนตก  ให้เม็ดฝนมีขนาดที่ทำให้ตกด้วยความเร็ว
สม่ำเสมอ 10 เมตรต่อวินาที  และตกลงในแนวดิ่งในอากาศนิ่ง   (สำหรับผุ้สังเกตอยู่นิ่ง) สำหรับผู้สังเกตที่อยู่ในรถยนต์วิ่งด้วยความเร็ว 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (10 เมตรต่อวินาที) จะเห็นเม็ดฝนตกอย่างไร ซึ่งความเร็วของเม็ดฝนที่เห็นจะเป็นความเร็วสัมพัทธ์กับผู้สังเกตที่
เคลื่อนที่นั่นเอง  สิ่งที่ลอยอยู่นิ่งในอากาศข้างหน้าของผู้สังเกตที่ออยู่ในรถ  ผู้สังเกตย่อมเห็น สิ่งนั้นเคลื่อนที่เข้าหาด้วยความเร็วมีขนาดเท่าที่รถวิ่ง  ซึ่งหมายถึงความเร็วในทิศตรงกันข้าม กับการเคลื่อนที่ของตนเอง  สิ่งที่อยู่นิ่งด้านข้าง  หรือหลังของผู้สังเกตก็จะปรากฎมีความเร็ว
เช่นเดียวกัน  เพราะฉะนั้นผู้สังเกตจึงจะเห็นเม็ดฝนมีความเร็วเดิม บวกด้วยความเร็วมีทิศตรงกันข้ามกับความเร็วของตนเองแต่ขนาดเท่ากัน http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image002_0017.gif  เมื่อให้
http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image004_0015.gif  เป็นความเร็วของผู้สังเกต (Observer) ให้ http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image006_0009.gif http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image008_0020.gifสามารถแสดงทิศทางได้ดังรูป
http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image009_0000.gif


-          การเคลื่อนที่ในสองมิติและสามมิติ


                                          



การเคลื่อนที่ในสองมิติ และสามมิติ           การเคลื่อนที่ในสองมิติสามารถแยกคิดแบบการเคลื่อนที่หนึ่งมิติที่ตั้งฉากกัน และสามารถ นำการคิดสองทางนั้นมาประกอบกันหรือนำมารวมกันแบบเวกเตอร์ได้ ตามแนวของแกนสามแกนที่ ตั้งฉากซึ่งกัน  คือ  ตามแกนของระบบโคออร์ดิเนต XYZ สำหรับการเคลื่อนที่สามมิติ และตามแกน ของระบบโคออร์ดิเนต XY สำหรับการเคลื่อน ที่สองมิติ ตำแหน่งของวัตถุในสองมิติที่จุด ที่เวลา http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image002_0014.gif กำหนดได้ด้วยค่า http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image004_0014.gifและ http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image006_0008.gifทางแกน และแกน ตามลำดับ และตำแหน่งของวัตถุนั้นที่เวลา http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image008_0017.gif (จุด Q) สมมติ
ให้เป็น http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image010_0008.gifและ http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image012_0005.gifการกระจัดหรือการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งระหว่างสองจุดนั้นให้เป็น ไปตามเส้นโค้งดังรูป
                  http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image017.gif
                         รูป แสดงตำแหน่งและการกระจัดของวัตถุในช่วงเวลา http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image002_0015.gifกับ http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image008_0018.gif
ความเร็วเฉลี่ยสำหรับการเคลื่อนที่ทาง คือ
http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image019.gif
และความเร็วเฉลี่ยสำหรับการเคลื่อนที่ทาง 
คือ
http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image021.gif
เมื่อ http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image002_0016.gifกับ http://www.obeclms.com/lesson/01_Motion/images/clip_image008_0019.gifเข้าใกล้กันมาก ๆ ความเร็วเฉลี่ยก็จะเป็นความเร็วขณะใดขณะหนึ่งเช่นเดียวกับการคิดในหนึ่งมิติ



-          เวกเตอร์ตำแหน่งและเวกเตอร์ความเร็วในสองมิติ

เวกเตอร์ตำแหน่งและเวกเตอร์ความเร็วในสองมิติ
                 ดังตัวอย่างการเคลื่อนที่ที่ผ่านมา อาจคิดว่า เวกเตอร์\displaystyle \mathord{\buildrel{\lower3pt\hbox{$\scriptscriptstyle\rightharpoonup$}} \over R} _1 ป็นเวกเตอร์ตำแหน่ง (position vector) ที่เวลา \displaystyle t_1  สำหรับวัตถุที่มีค่าทาง เป็น \displaystyle x_1 และมีค่า เป็น\displaystyle y_1 เวกเตอร์ \displaystyle \mathord{\buildrel{\lower3pt\hbox{$\scriptscriptstyle\rightharpoonup$}} \over R} _1  จะมีขนาดและทิศชัดเจนเทียบกับจุดกำเนิดของโคออร์ดิเนต เมื่อเวลาเปลี่ยนเป็น \displaystyle t_2  ตำแหน่งของวัตถุเปลี่ยนไปเป็นเวกเตอร์\displaystyle \mathord{\buildrel{\lower3pt\hbox{$\scriptscriptstyle\rightharpoonup$}} <br />
\over R} _2
                
องค์ประกอบทาง ของเวกเตอร์ \displaystyle \mathord{\buildrel{\lower3pt\hbox{$\scriptscriptstyle\rightharpoonup$}} \over R} _1  คือ \displaystyle x_1  องค์ประกอบทาง ของเวกเตอร์ \displaystyle \mathord{\buildrel{\lower3pt\hbox{$\scriptscriptstyle\rightharpoonup$}} \over R} _1  คือ ค่า\displaystyle y_1  องค์ประกอบทาง ของเวกเตอร์ \displaystyle \mathord{\buildrel{\lower3pt\hbox{$\scriptscriptstyle\rightharpoonup$}} \over R} _2  คือ \displaystyle x_2  และองค์ประกอบทาง ของเวกเตอร์\displaystyle \mathord{\buildrel{\lower3pt\hbox{$\scriptscriptstyle\rightharpoonup$}} \over R} _2 คือ\displaystyle y_2
                  
ความเร็วเฉลี่ยสามารถเขียนในรูปเวกเตอร์ได้เป็น

\displaystyle \mathord{\buildrel{\lower3pt\hbox{$\scriptscriptstyle\rightharpoonup$}} \over v} _{av} = \frac{{\mathord{\buildrel{\lower3pt\hbox{$\scriptscriptstyle\rightharpoonup$}} \over R} _2 - \mathord{\buildrel{\lower3pt\hbox{$\scriptscriptstyle\rightharpoonup$}} \over R} _1 }}{{t_2 - t_1 }}          

-          ตัวอย่างโจทย์ เรื่องการเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ





1 ) นาย ก. เดินทางจาก ไป ใช้เวลา 18 วินาที จากนั้นเดินต่อไปยัง ดังรูป ใช้เวลา 12 วินาที จงหาขนาดของความเร็วเฉลี่ยของนาย ก ตลอดการเดินทางดังนี้
73574
0.67 m/s
0.75 m/s
0.97 m/s
1.0 m/s
2 ) รถยนต์คันหนึ่งแล่นด้วยความเร็ว 20 เมตร/วินาที ไปทางทิศเหนือ แล้วเลี้ยวไปทางทิศตะวันออกด้วยขนาความเร็วเท่าเดิม ในเวลา วินาที จงหาความเร็วของรถที่เปลี่ยนไป หลังจากเลี้ยวรถไปแล้ว
displaystyle 20 sqrt2 เมตร/วินาที ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
40 เมตร/วินาที ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
displaystyle 20 sqrt2 เมตร/วินาที ทิศตะวันออกเฉียงใต้
40 เมตร/วินาที ทิศตะวันออกเฉียงใต้

3 ) จากข้อ จงหาความเร่งของรถคันดังกล่าว ขณะเลี้ยวรถ
displaystyle 4 sqrt2 เมตร/วินาที ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
displaystyle 4 sqrt2 เมตร/วินาที ทิศตะวันออกเฉียงใต้
เมตร/วินาที ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เมตร/วินาที ทิศตะวันออกเฉียงใต้
4 ) ถ้าการเคลื่อนที่ของวัตถุที่ลากแถบกระดาษซึ่งเครื่องเคาะสัญญาณที่เคาะทุก ๆ displaystyle frac{1}{50} วินาที ทำให้เกิดจุดดังรูป จากการสังเกตจุดเหล่านี้จะบอกคร่าว ๆ ว่าความเร่งเป็นอย่างไร
73577
สม่ำเสมอ
เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ลดลงเรื่อย ๆ
เพิ่มแล้วลด

5 ) จากการศึกษาการเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวเส้นตรงโดยใช้เครื่องมือเคาะสัญญาณเวลาได้จุดเป็นแถบกระดาษวัดดังรูป โดยที่ระยะห่างระหว่างจุดจะมีช่วงเวลาเท่ากัน กราฟรูปใดที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเร่งของวัตถุกับเวลา
73578
73579
73580
73581
73582
6 ) ถ้ากราฟระหว่างความเร็วของวัตถุ ที่เวลา ต่าง ๆ เป็นดังรูป กราฟของความเร่ง กับเวลา ต่าง ๆ จะเป็นตามรูปใด
73583
73584
73585
73586
73587

7 ) กราฟของตำแหน่งวัตถุบนแนวแกน กับเวลา เป็นดังรูป ช่วงเวลาใดหรือตำแหน่งใดที่วัตถุไม่มีความเร่ง
73588
ช่วง OA
ช่วง BC
ที่จุด B
ที่จุด C
8 ) จากกราฟระหว่างระยะทางของการกระจัดในแนวเส้นตรงกับเวลาดังรูป จงหาความเร็วเฉลี่ยระหว่างเวลา วินาที ถึง 25 วินาที
73589
15 m/s
5 m/s
-5 m/s
0 m/s

9 ) จากกราฟความเร็ว - เวลา ซึ่งแสดงการเดินทางในช่วงเวลา A, B, C และ จงหาระยะทางที่เคลื่อนที่ไปได้ใน 0.5 ชั่วโมง
73590
18.5 กิโลเมตร
19.5 กิโลเมตร
20.0 กิโลเมตร
40.0 กิโลเมตร
10 ) จากข้อ 9. กราฟความเร็ว - เวลา จงหาอัตราเร็วเฉลี่ยใน 0.2 ชั่วโมงแรก
37.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
25.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
15.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
12.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

youtube

youtube

http://youtu.be/xqyNJQmy8d8